เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ทางด้านวิชาชีพวิศวกรรม โดยมีความหวังว่าจะนำผลสัมฤทธิ์มาพัฒนาระบบการเรียนการสอน เพื่อที่นิสิตจะได้รับความรู้ทั้งในเชิงวิชาชีพและเชิงวิชาการไปพร้อมกัน ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมสร้างอีกหนึ่งพันธกิจ คือ การบริการวิชาการ (Academic Service) ซึ่งโครงการต่อไปนี้เป็นเพียงบางตัวอย่างที่แสดงถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทางวิชาชีพภายนอกกับ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ
วันที่ 18 มิถุนายน 2568
ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบรางและนวัตกรรมวัสดุวิศวกรรมโยธาเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (RailMateInno) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ดำเนินการทดสอบน้ำหนักบรรทุกของแกนทรีลำเลียง (Launching Gantry, LG) ขนาดใหญ่ที่ใช้งานจริงในสนาม ความยาวรวมกว่า 120 เมตร ด้วยน้ำหนักบรรทุกที่สูงกว่าน้ำหนักบรรทุกออกแบบเท่ากับร้อยละ 110 ซึ่งถือว่าเป็นการทดสอบน้ำหนักบรรทุกตามแบบแผนที่เป็นมาตรฐานและมีการตรวจวัดการเปลี่ยนรูป (deformation) ในพิกัดต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ โดยค่าที่ได้จะนำไปเทียบมาตรฐาน (calibrate) กับแบบจำลองไฟไนต์เอลิเมนต์เพื่อตรวจสอบสมรรถนะของ LG อย่างละเอียดต่อไป การดำเนินงานถูกควบคุมโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุนิติ สุภาพ (ผู้อำนวยการ RailMateInno)
15 พฤษภาคม 2568
ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ในงานทดสอบและวิจัยด้านวิศวกรรมขั้นสูง
“โครงการตรวจสอบ และประเมินสภาพโครงสร้างสะพานและทางยกระดับบนโครงข่ายทางหลวงหมายเลข 1 และทางหลวงหมายเลข 31”
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด (หัวหน้าโครงการ, ผู้อำนวยการศูนย์แห่งความยอดเยี่ยมทางวิศวกรรมเพื่อความยั่งยืน, มศว)
ลักษณะโครงการเป็นการประเมินสภาพสะพานที่มีอยู่เดิมของกรมทางหลวง ตลอดสายทางของทางหลวงหมายเลข 1 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งป็นการประเมินสภาพและทดสอบน้ำหนักบรรทุกของทางหลวงหมายเลข 31 (ดอนเมืองโทลล์เวย์ส่วนต่อขยาย)
การดำเนินงานลุล่วงไปด้วยดีและได้ส่งมอบงานให้กรมทางหลวง (ทล.) ภายในระยะเวลาที่กำหนด
6 พฤษภาคม 2568
ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบรางและนวัตกรรมวัสดุวิศวกรรมโยธาเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (RailMateInno) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ได้ดำเนินการทดสอบน้ำหนักบรรทุกของตอม่อสะพาน (Bridge Pier) ขนาดใหญ่ที่ใช้งานจริงในสนาม สูงกว่า 20 เมตร ด้วยน้ำหนักบรรทุกประมาณ 600 ตัน ซึ่งนับเป็นการทดสอบตอม่อโดยวางน้ำหนักลอยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่มีการบันทึกไว้
การทดสอบในครั้งนี้เพื่อเป็นการที่จะแน่ใจว่าโครงสร้างตอม่อคอนกรีตที่มีอยู่เดิมมีสมรรถนะที่ดีและพร้อมใช้งานเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกจริงต่อไป การดำเนินงานถูกควบคุมโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุนิติ สุภาพ (ผู้อำนวยการ RailMateInno)
การทดสอบจริงดำเนินการเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการติดตั้งอุปกรณ์รับรู้ (sensor) จำนวนมาก เพื่อทวนสอบผลกับการแบบจำลองไฟไนต์เอลิเมนต์แบบไร้เชิงเส้น (Nonlinear Finite Element Model) ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่สามารถนำไปใช้งานจริงได้อย่างสอดคล้องกัน
1 เมษายน 2568
ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ขอสนับสนุนการทำโครงการบริการวิชาชีพโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุนิติ สุภาพ หัวหน้า “ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบรางและนวัตกรรมวัสดุวิศวกรรมโยธาเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (RailMateInno)”
ในโครงการทดสอบความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุก (Load Carrying Capacity) และการเฝ้าติดตามสุขภาพโครงสร้าง (Structural Health Monitoring) ของโครงสร้างสะพานใหม่ที่สร้างขึ้นทดแทนสะพานที่วิบัติที่เกิดจากการพังถล่มของโครงสร้างที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบริเวณหน้าด่านฯ ดาวคะนอง บนพื้นที่โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก (เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568)
การดำเนินการทดสอบเป็นไปหลักวิชาการและได้ใช้เทคโนยีที่ทันสมัยในการตรวจวัดและประมวลผล โดยผลการทดสอบที่ได้จะถูกใช้เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เปิดการจราจรบนเส้นทางที่เสียหาย
เพื่อประเมินผลสะพานที่ทำการเสริมกำลังแล้ว การทดสอบในสนามที่สถานะใช้งานได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 เพื่อเปรียบเทียบกัน การทดสอบกระทำทั้งสองช่วงสะพาน นั่นคือ สะพานที่ยังไม่เสียหายและสะพานที่เสียหายจากเพลิงไหม้แล้วถูกทำการเสริมกำลัง โดยทั้งคู่มีความยาวช่วงและลักษณะของเกอร์เดอร์สะพานที่เหมือนกัน และนี่เป็นครั้งแรกของการทดสอบโดยภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมที่ใช้น้ำหนักบรรทุก 25 ตัน ถึง 12 คัน ต่อหนึ่งตอม่อสะพาน เนื่องจากความเร่งในการเปิดใช้สะพาน การทดสอบกระทำโดยทีมทดสอบเดียวทั้งสองช่วงสะพานในหนึ่งคืน ซึ่งเป็นงานที่หลักและท้าท้ายเป็นอย่างมาก โครงการอยู่ภายใต้การดูแลของ ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด หัวหน้าหน่วยวิจัย RiDIR คณะวิศวกรรมศาสตร์ มศว ในฐานะประธานอนุกรรมการวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน วสท. ได้ร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญ เข้าให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อ คณะกรรมการของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในกรณีอุบัติเหตุ ชิ้นงาน Precast Segment หล่นขณะติดตั้งบนถนนพระราม 2 จากเหตุการณ์ชิ้นงาน Precast Segment ของ Precast Concrete Segmental Box Girder Viaduct ของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 ของ กทพ. ได้เกิดอุบัติเหตุหล่นลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 16.15 น. โดยมี นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เข้าร่วมเป็นประธานการประชุม

เนื่องจากโครงสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) จะมีการเปิดการเดินรถในช่วงกลางปี 2566 นี้ เพื่อให้แน่ใจว่า สมรรถนะของโครงสร้างเป็นไปตามที่ได้รับการออกแบบไว้ จึงเกิดโครงการทดสอบน้ำหนักบรรทุกใช้งาน (service load test) ขึ้นที่โครงสร้างจริง โครงการนี้เป็นความร่วมมือของทีมบริษัทผู้ออกแบบและบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ การทดสอบได้จำลองพฤติกรรมการรับน้ำหนักบรรทุกเสมือนจริง และใช้เวลาทดสอบ 5 วัน รับผิดชอบโครงการโดย รศ.ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด
ด้วยองค์การบริหารส่วนตําบลชุมพล อําเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ประสบปัญหาเกี่ยวกับการพังทลายของดินและถนนของโครงการก่อสร้างถนนลาดยางผิวจราจรพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีตบริเวณสายเลียบคลองบึงป้ายสองฝั่ง ในการนี้ อบต.ชุมพล จึงมีความประสงค์ จ้างเหมาโครงการบริการวิชาชีพทางวิศวกรรมโยธาฯ ในการเจาะสํารวจดินและวิเคราะห์เสถียรภาพของดิน เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเกิดการพังทลายดังกล่าว รับผิดชอบโครงการโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุดนิรันดร์ เพชรัตน์ และ อาจารย์ ดร.อัฐสิทธิ์ ศิริวชิราภรณ์
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor, EEC) ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นดินและการปรับปรุงคุณภาพดิน ด้วยวิธี Rapid impact compaction (RIC) เพื่อที่จะแน่ใจว่า การก่อสร้างและความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างลานจอดอากาศยานเป็นไปตามหลักวิศกวรรมและตอบสนองต่อเศรษฐศาสตร์ในการดำเนินโครงการก่อสร้าง รับผิดชอบโครงการโดย รศ.ดร.สุนิติ สุภาพ
ภายหลังอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถ โครงการบูรณะปรับปรุงสะพาน ทางหลวงหมายเลข ๓๕ ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก – นาโคก ตอน ๒ จังหวัดสมุทรสาคร ล้มคว่ำ เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องมีการติดตั้งคานสะพานชุดใหม่ ในการนี้ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มศว โดย รศ.ดร.สุนิติ สุภาพ ได้ทำหน้าที่เป็นสถาบันหลักในการควบคุมการตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์ของโครงสร้างและดำเนินการทำการทดสอบน้ำหนักบรรทุก (Load Test) และเฝ้าติดตามสุขภาพของโครงสร้าง (Structural Health Monitoring) โดยในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ได้ทำการบรรยายสรุปความคืบหน้าของโครงการต่อ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง
การเข้าร่วมแก้ปัญหางานด้านวิศวกรรมโครงสร้างของภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมและภาคอุตสาหกรรมเกิดขึ้นครั้ง (2565) เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้กับสะพานทางแยกที่สร้างจากคอนกรีตอัดแรง ในครั้งนี้การเข้าสำรวจในสถานที่จริงและการวิเคราะห์พฤติกรรมโครงสร้างตามหลักไร้เชิงเส้นของวัสดุได้ใช้เป็นกุญแจสำคัญ โดยโครงการนี้มีนอกจากมีการซ่อมแซม และเสริมกำลังโครงสร้างแล้ว ยังมีดำเนินการทำการทดสอบน้ำหนักบรรทุก และการตรวจประเมินเชิงโครงสร้างในระยะยาวอีกด้วย รับผิดชอบโครงการโดย ผศ.ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด
สำหรับหน่วยงานที่เสี่ยงต่อภัยก่อการร้าย การมีอยู่ของโครงสร้างต้านแรงระเบิดเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยโจทย์ที่กล่าว ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมได้มีโอกาสวิเคราะห์และออกแบบระบบป้องกันดังกล่าวให้กับอาคารัฐสภาแห่งใหม่ (2564) โดยโครงสร้างที่พิจารณาเป็นอาคารตรวจยานพาหนะต้องสงสัย ซึ่งประกอบด้วยส่วนของประตูเหล็กและโครงสร้างรองรับ ซึ่งการออกแบบใช้วิธีสถิตเทียบเท่าและตรวจสอบด้วยโปรแกรมไฟไนต์อิลิเมนต์ที่จำลองพฤติกรรมแบบไร้เชิงเส้นภายใต้แรงกระทำแบบชั่วครู่ (transient loading) รับผิดชอบโครงการโดย ผศ.ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด
ให้บริการให้ใน โครงการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของโครงสร้างอาคาร ในโครงการก่อสร้างอาคารที่พักของนิสิต บุคลากรทางการแพทย์และการศึกษา (ภายหลังบอกเลิกสัญญาในส่วนงานที่เหลือ) ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ เพื่อตรวจสอบความมั่งคงแข็งแรงของอาคารที่ทิ้งร้าง ก่อนทำการการก่อสร้างเพิ่มเติม ดำเนินการโดยศูนย์แห่งความยอดเยี่ยมทางวิศวกรรมและความยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มิถุนายน 2563 รับผิดชอบโครงการโดย ดร.สุดนิรันดร์ เพชรัตน์
โครงการศึกษา (2562) “การทดสอบน้ำหนักบรรทุกของสะพานข้ามแยกบางกะปิ” เป็นโครงการต่อเนื่องที่ต้องการทดสอบเพื่อเก็บสภาพการให้บริการของสะพานข้ามแยกบางกะปิ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะสามารถนำไปเป็นส่วนในการตัดสินในเพื่อที่จะปรับปรุงสะพานข้ามแยกดังกล่าว ร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง…รับผิดชอบโครงการโดย ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด


โครงการ “การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพย์สินภาครัฐ (พ.ศ.2561 – 2562)” ด้วยความร่วมมือกับบริษัท บิม คอนซัลท์ จำกัด เป็นการนำเสนอการประยุกต์วิทยาการของ แบบจำลองสารสนเทศอาคาร (Building Information Modeling) ในการช่วยหน่วยงานของภาครัฐ (กรมธนารักษ์) ในการประเมินความคุ้มค่าของอาคารที่รัฐครอบครองหรือต้องดูแล โดยในโครงการมีการแสดงเทคโนโลยีทางวิศวกรรมที่ทันสมัย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ผ่านการบรรยายและฝึกปฏิบัติภาคสนาม …รับผิดชอบโครงการโดย ดร.สุนิติ สุภาพ
โครงการศึกษา (2561) “การทดสอบน้ำหนักบรรทุกของคานคอนกรีตอัดแรงขนาดเท่าจริง” เป็นโครงการที่ดำเนินการผ่านความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อศึกษาพฤติกรรมของคานสะพานในโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายชมพู-เหลือง ของบริษัท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยเป็นการทดสอบคานสะพานคอนกรีตอัดแรงต่อเนื่องยาว 90 เมตร ผลการศึกษาทำให้ทราบพฤติกรรมจริงและสามารถนำไปแก้ปัญหาทางเทคนิคในโครงการได้มากมาย…รับผิดชอบโครงการโดย ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด
เมื่อ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เปิดโอกาสให้มีการเสนอทุนวิจัยอีกครั้ง ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มศว จึงได้ร่วมดำเนินงานวิจัย ภายใต้หัวข้อ “ระบบอาคารถอดประกอบอัจฉริยะ : ระยะที่ 1 ระบบผนังเบาแบบถอดประกอบที่มีค่าการนำความร้อนต่ำและสามารถป้องกันกระสุนและการถูกตรวจจับในเวลากลางคืน (2559)” ซึ่งผลการดำเนินงานนอกจากได้ผลงานตีพิมพ์ และยังได้อาคารต้นแบบที่ใช้พัฒนางานวิจัยในลำดับต่อมา โดยการร่วมงานวิจัยยังคงเป็น ดร.ภาณุวัฒน์ จ้อยกลัด